ความรับผิดชอบของการรับงานแกะสลักไม้
source: สยามไม้แกะสลัก
ความรับผิดชอบของการรับงานแกะสลักไม้ ระหว่างช่างแกะสลักไม้อิสระ กับช่างแกะสลักไม้ที่มีร้านค้า
ความหมายของช่างแกะสลักไม้อิสระ เป็นช่างแกะสลักไม้ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน ทำงานอิสระไม่สังกัดอยู่กับใคร หรือร้านค้าใดๆ ช่างแกะสลักเหล่านี้จะรับงานมาจากร้านค้าอีกต่อ และมีลูกค้าเก่าที่เคยติดต่อกันอยู่ ซึ่งช่างแกะไม้เหล่านี้อยู่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณเนื่องจากใกล้แหล่ง วัตถุดิบ และเพื่อความสะดวกในการมารับส่งงานไม้แกะสลัก
ช่างแกะสลักไม้ที่มีสังกัด หรืออยู่ในร้านค้าแกะสลักไม้ทั่วไป ที่กรุงเทพฯ ย่านถนนสายไม้ก็เปิดค้าขายกันเป็นแนวรูปแบบของอาคารพาณิชย์
เรื่องของการทำงาน วิธีการทำงานให้มีคุณภาพต้องเน้นเรื่องจริยธรรมความรับผิดชอบเกี่ยวกับงาน เข้ามาเกี่ยวข้อง คำว่าความรับผิดชอบเป็นคำที่สำคัญหรือในบางทีอาจจะเปรียบได้กับความซื่อ สัตย์ มีคนจำนวนมากนำจริยธรรมมาใช้ในชีวิตส่วนตัวและในการดำเนินธุรกิจของพวกเขา แต่มันเป็นเพียงการยอมรับของคนเหล่านั้น ไม่ใช่กฎเกณฑ์ การปฏิบัติตามจริยธรรมไม่ใช่สิ่งที่ใครคนหนึ่งสามารถศึกษาได้จากในโรงเรียน ในสถานที่ทำงาน โดยพื้นฐานแล้วพฤติกรรมที่ขาดจริยธรรม ได้แก่ การไม่ตรงต่อเวลา การอู้งาน การนำความลับของอาชีพไปเปิดเผย และการทำประวัติส่วนตัวที่ไม่บอกพื้นความรู้และทักษะตามความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ถือว่าขาดจริยธรรม
ควรให้คำจำกัดความ และมาตรฐานของการมีจริยธรรมความรับผิดชอบกับงานแกะสลักไม้ ความเป็นมืออาชีพในธุรกิจของตนเอง และพร้อมที่จะแสดงมันออกมา การมีสำนึกในหลักจรรยา ความรับผิดชอบไม่ได้เป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อน และก็ไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานทางปรัชญา ช่างแกะสลักไม้ทุกคนก็สามารถจะเป็นผู้มีจริยธรรมได้ เพราะการปฏิบัติตนอย่างผู้มีจริยธรรมนั้นขึ้นอยู่กับหลักการง่ายๆ คือ ความยุติธรรม ความเหมาะสม ความรับผิดชอบในงานที่ตนทำอยู่ทุกวัน
สิ่งที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความแตกต่างกันเลยในด้านความรับผิดชอบ จริยธรรมในวิชาชีพ ความเป็นมืออาชีพในงานที่ทำอยู่ ระหว่างช่างอิสระ หรือ ร้านค้าที่คิดว่าน่าจะมีความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า หากเราไม่คำนึงถึงจริยธรรมในการทำงาน ตลอดจนหน้าที่ความรับผิดชอบ จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้า และจะทำให้ภาพรวมของงานไม้แกะสลักดูเสียหาย
ความรับผิดชอบของการรับงานแกะสลักไม้ ระหว่างช่างแกะสลักไม้อิสระ กับช่างแกะสลักไม้ที่มีร้านค้า
ความหมายของช่างแกะสลักไม้อิสระ เป็นช่างแกะสลักไม้ที่ทำงานอยู่ที่บ้าน ทำงานอิสระไม่สังกัดอยู่กับใคร หรือร้านค้าใดๆ ช่างแกะสลักเหล่านี้จะรับงานมาจากร้านค้าอีกต่อ และมีลูกค้าเก่าที่เคยติดต่อกันอยู่ ซึ่งช่างแกะไม้เหล่านี้อยู่กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณเนื่องจากใกล้แหล่ง วัตถุดิบ และเพื่อความสะดวกในการมารับส่งงานไม้แกะสลัก
ช่างแกะสลักไม้ที่มีสังกัด หรืออยู่ในร้านค้าแกะสลักไม้ทั่วไป ที่กรุงเทพฯ ย่านถนนสายไม้ก็เปิดค้าขายกันเป็นแนวรูปแบบของอาคารพาณิชย์
เรื่องของการทำงาน วิธีการทำงานให้มีคุณภาพต้องเน้นเรื่องจริยธรรมความรับผิดชอบเกี่ยวกับงาน เข้ามาเกี่ยวข้อง คำว่าความรับผิดชอบเป็นคำที่สำคัญหรือในบางทีอาจจะเปรียบได้กับความซื่อ สัตย์ มีคนจำนวนมากนำจริยธรรมมาใช้ในชีวิตส่วนตัวและในการดำเนินธุรกิจของพวกเขา แต่มันเป็นเพียงการยอมรับของคนเหล่านั้น ไม่ใช่กฎเกณฑ์ การปฏิบัติตามจริยธรรมไม่ใช่สิ่งที่ใครคนหนึ่งสามารถศึกษาได้จากในโรงเรียน ในสถานที่ทำงาน โดยพื้นฐานแล้วพฤติกรรมที่ขาดจริยธรรม ได้แก่ การไม่ตรงต่อเวลา การอู้งาน การนำความลับของอาชีพไปเปิดเผย และการทำประวัติส่วนตัวที่ไม่บอกพื้นความรู้และทักษะตามความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ถือว่าขาดจริยธรรม
ควรให้คำจำกัดความ และมาตรฐานของการมีจริยธรรมความรับผิดชอบกับงานแกะสลักไม้ ความเป็นมืออาชีพในธุรกิจของตนเอง และพร้อมที่จะแสดงมันออกมา การมีสำนึกในหลักจรรยา ความรับผิดชอบไม่ได้เป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อน และก็ไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานทางปรัชญา ช่างแกะสลักไม้ทุกคนก็สามารถจะเป็นผู้มีจริยธรรมได้ เพราะการปฏิบัติตนอย่างผู้มีจริยธรรมนั้นขึ้นอยู่กับหลักการง่ายๆ คือ ความยุติธรรม ความเหมาะสม ความรับผิดชอบในงานที่ตนทำอยู่ทุกวัน
สิ่งที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ไม่มีความแตกต่างกันเลยในด้านความรับผิดชอบ จริยธรรมในวิชาชีพ ความเป็นมืออาชีพในงานที่ทำอยู่ ระหว่างช่างอิสระ หรือ ร้านค้าที่คิดว่าน่าจะมีความน่าเชื่อถือที่ดีกว่า หากเราไม่คำนึงถึงจริยธรรมในการทำงาน ตลอดจนหน้าที่ความรับผิดชอบ จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้า และจะทำให้ภาพรวมของงานไม้แกะสลักดูเสียหาย
- ปัญหาการไม่รักษาคำมั่นสัญญา ขาดความรับผิดชอบ บอกเลื่อนงานโดยไม่ให้ความสำคัญของ Timeline
- ปัญหา งานส่งต้องล่าช้า ผิดนัดบ่อยครั้ง
- ไม่ทำงานตามคิวงาน แต่จะเลือกทำงานที่ง่ายๆ ไปก่อน จะทำตามคิวต้องเข้าไปตรวจงาน หากเป็นงานเร่งแล้วอาจจะต้องมีการจ่ายเพิ่ม
- ความโลภ ไม่ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ รับงานหลักหมื่น แล้วทิ้งงานหลักร้อย
- เที่ยว และเสพสุรา ทำให้งานเสียหายในวันรุ่งขึ้น
- การทำงานไม่ละเอียด เนื่องจากต้องรีบทำเร่งด่วน ไม่คำนึงศิลป แต่เพื่อจะรีบทำงานให้ได้ชิ้นงานมากๆ
- ตีราคาค่าแรงไม่มีมาตราฐานในการคิดตามหลักวิชาการ
- ต้นทุนคือใส่ความกลัวเข้าไปในกณีที่เป็นงานยาก
- ต้นทุน คือ ยาสูบ เหล้า เบียร์ - ลักษณะผักชีโรยหน้า ที่ชัดเจนคืองานเฟอร์นิเจอร์ เรื่องการลงสี ไม่ทำครบขั้นตอนของการทำสี ผลงานจะฟ้องออกมาภายในปีเศษ
- ในช่วงฤดูฝน วัตถุดิบอาทิไม้จะมีความชื้น หรือถูกฝนจนเปียก เพียงผึ่งลมแห้งแล้วนำมาผลิดเป็นเฟอร์นิเจอร์เลย โดยละเลยขั่นตอนการอบไม้ เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะมีปัญหาตามมาภายหลัง อาทิ การทำสี ไม้บิด สีผิดเพี้ยน และเนื่องจากความชื้นก็จะเป็นอาหารของแมลงกัดกินไม้ อาทิปลวก ลูกค้าจะไม่รู้หรอกว่านำภัยเข้าบ้าน กว่าจะรู้เฟอร์นิเจอร์ที่สะสมมาครั้งแต่ ปู่ย่า อาจจะเสียหายไปด้วย
- โอกาสทางด้านการศึกษา ขากการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ
- ติดอบายมุข การพนัน ช่างบางคนมีการศึกษาน้อย แต่มีเงินเทียบได้กับการทำงานระดับปริญญาโท ซึ่งทารการเรียกพวกเขาว่าหาเช้า กินค่ำ
0 ความคิดเห็น: