กฤษณาไม้หอม

Aquilaria – กฤษณา
กฤษณา เป็นพันธุ์ไม้สกุล Aquilaria ซึ่งพันธุ์ไม้สกุลนี้ส่วนใหญาเป็นม้ต้น มีบางชนิดเป็นไม้พุ่ม มีใบกว้าง และมีเนื้อไม้อ่อน
กฤษณา เป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบความชื้นสูง พบขึ้นกระจายตามธรรมชาติ หุบเขา และป่าดิบชื้นทั่วภูมิภาคประเทศไทย
ทั่วโลกพบพันธุ์ไม้กฤษณาถึง 25 ชนิด ขึ้นกระจายอยู่ตามภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ จีน ลาว ไทย พม่า กัมพูชา เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย และอินเดีย
ในประเทศไทยพบพันธุ์ไม้สกุลนี้ เพีบง 5 ชนิด
  • Aquilaria crassna
  • Aquilaria nalaccensis
  • Aquilaria hirta
  • Aquilaria subintegra
  • Aquilaria rugosa
สิ่งที่ทำให้ กฤษณา เป็นไม้มีค่าก็ตือ กลิ่นหอมจากเนื้อไม้ ส่วนที่ใช้ : เนื้อไม้, ชัน

สรรพคุณ : เนื้อไม้ เมื่อนำมาสกัดด้วยไอน้ำ ก็จะได้น้ำมันหอมออกมาซึ่งเรียกว่า Agar-atar และ Chuwah ของประเทศอัสสัม เนื้อไม้ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้อาเจียน แก้วิงเวียนศีรษะ ท้องร่วง โรคปวดขัดตามข้อ โดยนำมาผสมกับยาหอมกิน สำหรับคนป่วยที่มีความกระหายน้ำมาก ให้นำมาต้มน้ำดื่ม

การใช้ประโยชน์ของไม้กฤษณา
"สารกฤษณา" มีชื่อทางการค้าหลายชื่อ ได้แก่ agarwood (ยุโรป), aloeswood (สิงคโปร์), eaglewood (สหรัฐอเมริกา),gaharu (อินโดนีเชีย), oudh (อาหรับ), tram (เวียดนาม), jinko (ญี่ปุ่น), chen xiang (จีน) เป็นต้น ปัจจุบันนอกจากชิ้นไม้กฤษณาและน้ำมันกฤษณาที่เป็นสินค้าหลักในตลาดแล้วยัง ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกฤษณาให้มีความหลากหลายขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากกลุ่มขึ้น โดยผลิตภัณฑ์จากกฤษณาที่เป็นสินค้าวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตลาดในแถบเอเชีย เช่น ไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จากการสำรวจของ Phillips (2003) สามารถจำแนกได้ดังนี้
ท่อนไม้กฤษณา (agarwood branch or trunk section) เป็นท่อนกฤษณาขนาดใหญ่ ซึ่ง เป็นส่วนของกิ่งหรือลำต้นที่มีการสะสมสารกฤษณาเป็นบริเวณพื้นที่กว้างลักษณะ เนื้อไม้จะมีสีน้ำตาลเข้มถึงสีดำ ซึ่งจะเรียกว่าไม้เกรด 1 หรือ เกรดซุปเปอร์ (super agarwood) ราคาขายต่อกิโลกรัมจะสูงมาก จากหลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาทต่อกิโลกรัมขึ้นอยู่กับคุณภาพของท่อนไม้นั้น ปัจจุบันนี้หาได้ยากมาก

เพราะเป็นกฤษณาที่ได้จากต้นไม้ที่เกิดในธรรมชาติเท่านั้น และมาจากต้นไม้มีอายุมาก ซึ่งมีการสะสมกฤษณามาเป็นเวลานานหลายปีส่วนใหญ่ท่อนกฤษณาลักษณะนี้อาจจะเห็น ปรากฎอยู่ในวัด หรือคฤหาสถ์ของเศรษฐีเพื่อเป็นสิ่งแสดงความร่ำรวยมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ

ชิ้นไม้ (agarwood pieces) เป็นชิ้นไม้กฤษณาขนาดเล็ก ๆ ดังนั้นจึงมีราคาถูกกว่าไม้ท่อนขนาดใหญ่ ใช้สำหรับจุดเผาเพื่อให้มีกลิ่นหอมนิยมใช้จุดเพื่อต้อนรับแขกของชาวอาหรับ และบางคนเชื่อว่าการดมกลิ่นควันจากการเผาชิ้นไม้กฤษณาจะทำให้รักษาโรค บางอย่างได้

น้ำมันกฤษณา (agaroil) เป็นน้ำมันที่สกัดได้จากกฤษณาเกรด3หรือเกรด4เนื่องจากการสะสมของสารกฤษณามี ปริมาณน้อยกว่า ไม่สามารถนำไปขายเป็นชิ้นไม้ได้หน่วยที่ใช้เรียกน้ำมันกฤษณา เรียกว่า โตรา (Tora) มีปริมาณประมาณ 12 กรัมราคาขายกันอยู่ที่ประมาณ 2,400-4800 บาทต่อโตร่าประโยชน์ของน้ำมันกฤษณา คือ นิยมใช้ทาตัวของชาวอาหรับเพื่อให้มีกลิ่นหอมเป็นส่วนผสมของเครื่องยา เป็นส่วนผสมของน้ำหอมและเครื่องสำอางบางชนิด

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ ผงไม้ที่เหลือจากการกลั่นน้ำมันกฤษณาแล้วนำไปทำธูปหอม ประเทศไต้หวันนำมาทำไวน์ และนำมาปั้นเป็นก้อนผสมน้ำมันกฤษณาและส่วนผสมต่าง ๆ ให้มีกลิ่นหอม เรียกว่า "marmool" ซึ่งผู้หญิงชาวอาหรับนิยมใช้จุดเพื่อให้มีกลิ่นหอม
อ่านเพิ่มเติม

0 ความคิดเห็น:

Copyright © 2013 woodworking in Thai and Blogger Templates - Anime OST.