พื้นไม้ปาร์เก้
พื้นไม้ปาร์เก้
มี ผู้คิดนำเศษไม้ หรือไม้ที่ไม่สามารถแปรรูปเป็นไม้ท่อนหรือแผ่นตามขนาดที่ตลาด ต้องการ โดยนำไม้มาซอยเป็นชิ้นเล็กๆขนาดเท่าๆกัน บางชนิดทำเป็นชิ้นเล็กบางๆนำมาเรียงต่อกันขนาด 1 ตารางฟุต แล้วแปะกระดาษด้านหลังแบบนี้เรียก “ปาร์เก้โมเสก” แต่ถ้าทำเป็นชิ้นๆหนาประมาณ 1.8 เซนติเมตร กว้าง 2-4 นิ้ว และยาว 8-14 นิ้ว แบบนี้เรียกว่า “ปาร์เก้รางลิ้น” อันที่จริงปาร์เก้ (parquet) เป็นความหมายตามกรรมวิธีการผลิตคือ การนำไม้ชิ้นเล็กมาต่อกันให้เป็นแผ่น นั่นเองกรรมวิธี การปูก็ต้องเตรียมผิวพื้นคอนกรีตหรือพื้นซีเมนต์ทำการขัดมันเรียบ แล้วจึงปูไม้ปาร์เก้ ส่วนวัสดุประสานคือ กาวลาเท็กซ์ ปริมาณการใช้กาวอยู่ที่ 1.5-2 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เมื่อปูแล้วเสร็จทิ้งไว้ให้กาวแห้งประมาณ 7-10 วัน จากนั้นทำการขัดด้วยเครื่องขัดกระดาษทราย ไล่เลียงตั้งแต่กระดาษทรายเบอร์หยาบไปจนถึงเบอร์ละเอียด เมื่อขัดได้เรียบดีแล้วจึงทาด้วยสีย้อมไม้ธรรมชาติแบบเคลือบแข็ง ตระกูลโพลียูริเทน (Polyurethane) เพื่อเคลือบผิว รักษาเนื้อไม้ และป้องกันรอยขูดขีด และควรทาเคลือบผิวไม้อย่างน้อย 3 รอบ หรือหากจะให้ดีควรจะทาสัก 5 รอบ
ลักษณะการใช้งานพื้นปาร์เก้
พื้นไม้ปาร์เก้เหมาะสำหรับงานพื้นภายในบ้านเท่านั้น และไม่สามารถรับแรงกระแทกหรือทนการขูดขีดจากการใช้งาน ควรถอดรองเท้าเมื่อเข้าบ้าน และระมัดระวังการขูดขีดจากการลากเฟอร์นิเจอร์ หรือการตกกระแทกจากของแข็งหรือของมีคม ซึ่งจะทำให้สีที่เคลือบไว้แตกและเนื้อไม้มีรอยบุบหรือเป็นรอยสึก โดยเฉพาะสิ่งหนึ่งที่เป็นศัตรูสำคัญของพื้นปาร์เก้ก็คือ น้ำและความชื้น ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความชื้นจากพื้นผิวซีเมนต์ที่เทขัดมัน หรืออาจเป็นเพราะช่างรีบปูปาร์เก้ขณะที่พื้นปูนยังแห้งไม่สนิท
ข้อควรระวัง
อย่าเร่งรีบปูพื้นปาร์เก้หากผิวพื้นซีเมนต์ยังไม่แห้งสนิท ควรปล่อยให้ความชื้นในพื้นคอนกรีตระเหยออกให้หมดก่อนอย่างน้อย10-15 วัน แต่สำหรับพื้นชั้นล่างซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นดินใต้อาคารนั้น จะมีความชื้นในดินจะระเหยขึ้นตลอดเวลาโดยเฉพาะในฤดูฝน ทางออกก็คือ ใช้พลาสติกแบบหนาปูคลุมดินให้ทั่วบริเวณ ส่วนพื้นคอนกรีตก็ควรผสมน้ำยากันซึมด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้มีปัญหาความชื้นจากพื้นดิน
ส่วนความชื้นอีกลักษณะหนึ่งที่ควรระวังคือ ความชื้นจากตัวไม้ปาร์เก้เอง โดยเฉพาะไม้ปาร์เก้ที่ไม่ได้ผ่านการอบไล่ความชื้น เมื่อเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงหรือบริเวณที่ถูกแสงแดดมาก หรืออาจโดนความชื้นไม่เท่ากัน เมื่อใช้ไปนานๆ ไม้ปาร์เก้ก็อาจมีปัญหาพองตัว บิดงอ และบวมขึ้นได้
ปัญหาที่พบบ่อยคือ การร่อนหลุดออกของพื้นไม้ปาร์เก้ โดยเกิดจากการเสื่อมสภาพของกาวที่ยึดติดพื้นไม้ปาร์เก้กับพื้นคอนกรีต บางครั้งเกิดจากช่างใช้กาวในการปูน้อยเกินไป หรือช่างบางคนอาจประหยัดมากไปโดยใช้กาวคุณภาพไม่ดีในการติดตั้งทำให้ไม้หลุด ร่อนเร็วกว่าปกติ ปัญหาที่พบอีกประการหนึ่งได้แก่ การระเบิด ปูดออกมา หรือดันตัวโก่งงอขึ้นของพื้นปาร์เก้ แม้จะไม่พบบ่อยนัก (มักจะพบกับไม้แดง) แต่เราก็ควรทราบไว้ ดังที่กล่าวข้างต้นไม้มีการยืดหดตัวสูงตามธรรมชาติ ช่างอาจปูปาร์เก้อัดแน่นเกินไป ไม่เว้นพื้นที่ให้ไม้ขยายตัวบริเวณริมผนัง ดังนั้นจึงควรเว้นให้เหลือช่องว่างระหว่างขอบพื้นไม้ริมผนังสักประมาณ 1-2 เซนติเมตร (ใช้บัวผนังปิดได้อยู่แล้ว) เมื่อปาร์เก้ขยายตัวก็จะยังมีช่องว่างในการขยายตัวของไม้และทำให้ไม้ต้องดัน ตัวจนระเบิดโก่งงอขึ้น
นอกจากนี้สาเหตุของความชื้นจากการใช้งาน เช่น น้ำหกลงบนพื้นแล้วไม่เช็ดออก หรือเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ละอองฝนสาดเข้ามาบนพื้นเป็นเวลานาน ฯลฯ ความจริงพื้นปาร์เก้ก็ไม่ได้ถึงกับบอบบางขนาดนั้น เพราะมีการทาน้ำยาเคลือบรักษาเนื้อไม้หลายชั้น แต่อาจจะเป็นปัญหาเรื่องรอยต่อริมผนังที่ไม่สนิท ที่เว้นไว้เพื่อป้องกันการขยายตัวของไม้ ทำให้น้ำไหลซึมเข้าไปทำความเสียหายได้ วิธีป้องกันปัญหานี้ คือ ถ้าทำน้ำหกเปียกพื้นควรรีบเช็ดให้แห้ง อย่าเอาผ้าเปียกหรือผ้าเช็ดเท้าที่เปียกชื้นไปทับปาร์เก้นาน ๆ และอย่าลืมปิดหน้าต่างก่อนออกจากบ้าน เป็นต้น
source: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
0 ความคิดเห็น: